3.2 ระบำ หมายถึง ศิลปะแห่งการร่ายรำที่มีผู้เล่นตังแต่ 2 คนขึ้นไป มีลักษณะการแต่งการคล้ายคลึงกัน กระบวนท่ารายรำคล้าคลึงกัน ไม่เล่นเป็นเรื่องราว อาจมีบทขับร้องประกอบการรำเข้าทำนองเพลงดนตรี.


รำโทน เป็นการละเล่นพื้นบ้านที่เล่นกันทั่วไปในกลุ่มจังหวัดภาคกลาง รำโทนจะก่อกำเนิดขึ้นในยุคใดสมัยใดไม่ปรากฏแน่ชัด ทราบแต่เพียงว่า เล่นสืบต่อกันมานานหลายชั่วคน. รำวงมาตรฐาน ศิลปะแห่งการฟ้อนรำที่งดงาม พร้อมทั้งเป็นการละเล่นพื้นบ้านอย่างหนึ่งที่บ่งบอกถึงความสนุกสนาน จากการฟ้อนรำกันเป็นคู่ ๆ. ตัวอย่างเนื้อเพลงเต้นกำรำเคียวเพลงมาชาย มากันเถิดนางเอย เอ๋ยรา แม่มามารึมา แม่มา (ซ้ำ) มาเถิดแม่นุชน้อง พี่จะเป็นฆ้องให้.

“รำโทน” เป็นศิลปะของคนในท้องถิ่น สาเหตุที่เรียกว่ารำโทนก็เนื่องจากใช้ “โทน” ลักษณะเป็นกลองหน้าเดียวเป็นเครื่องดนตรีหลักในการให้จังหวะ บางครั้งก็เรียกกันว่า “รำวง”.


รำวงมาตรฐานนิยมเล่นในงานรื่นเริงบันเทิงต่าง ๆ และยังนิยมนำมาใช้เล่นแทนการเต้นรำ สำหรับเครื่องแต่งกายก็มีการกำหนดการแต่งกายของผู้แสดงให้มีระเบียบด้วยการใช้ชุดไทย และชุด. ส่วนโทนมโหรีนั้น ตัวโทนทำด้วยดินเผา ด้านที่ขึงหนังโตกว่า โทนชาตรี ขนาดหน้ากว้างประะมาณ 22 ซม ยาวประมาณ 38 ซม สายโยงเร่งเสียงใช้ หวาย ผ่าเหลาเป็นเส้นเล็กหรือใช้ ไหม ฟั่นเป็นเกลียว. ๑.โทน ใช้โทนหลายใบ ผู้บรรเลงส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ผู้บรรเลงนั่งบนเก้าอี้ นำโทนวางลงบนตักให้ทางส่วนท้ายของโทนยื่นไปทางด้านข้างของสะเอว.

การรำ นักแสดงต้องรำอวดความชำนาญและความสามารถเฉพาะตน โดยการรำผสมท่าต่าง ๆ เข้าด้วยกันอย่างต่อเนื่องกลมกลืน แต่ละท่ามีความถูกต้องตามแบบฉบับ.


การละเล่นมีทั้งของเด็ก และของผู้ใหญ่ การละเล่นของเด็กจะเริ่มตั้งแต่เป็นทารกแบเบาะ จนกระทั่งเจริญวัย มีการเล่นง่ายๆ อยู่ภายในบ้าน การเล่นสนุกนอกบ้าน และการเล่น. ลักษณะการรำไทย การฟ้อนรำที่ดีเด่นจะต้องมีลักษณะที่งดงาม หรือลีลาท่ารำที่งดงาม ผู้รำจะต้องเคลื่อนไหวร่างกายให้สอดคล้อง กลมกลืนกันไปทุกส่วนของร่างกาย.